งวงช้าง..คือ จมูกของช้าง มีความยาวจดพื้น ใช้สำหรับหายใจ จึบ ดึง ยก ลากสิ่งของต่าง ๆรวมทั้งหยิบอาหารเข้าปาก ปลายงวงมีรู ๒ รู กลวงตลอดความยาวของงวง งวงช้างไม่มีกระดูกแข็งอยู่ภายใน จึงมีลักษณะอ่อนและแกว่งไปมาได้ง่าย เมื่อต้องการกินน้ำ ช้างจะใช้งวงดูดน้ำเข้าไปเก็บในวงวก่อน แล้วจึงพ่นน้ำจากงวงเข้าปากอีกต่อหนึ่ง
งา..คือฟันหน้าหรือเขี้ยวของช้าง งอกออกจากขากรรไกรข้างละกิ่ง งาช้างมีสีขาวนวล เริ่มโผลให้เห็นเมื่อช้างอายุประมาณ ๒-๕ ปี งาช้างเป็นสิ่งที่สวยงามและมีราคามากที่สุดในตัวช้าง งาช้างที่สวยจะมีความโค้งเรียบสม่ำเสมอจนเกือบเป็นรูปครึ่งวงกลม ช้างใช้งาเป็นอาวุธสำหรับป้องกันตัว งาช้างมี ๒ ชนิด คืองาปลี มีความยาวไม่มาก แต่มีขนาดใหญ่ วัดโดยประมาณ ๑๕ นิ้วขึ้นไป งาเครือ หรืองาหวาย เป็นงาที่มีลักษณะยาวรี มีความกว้างโดยรอบไม่ถึง ๑๔ นิ้ว
นัยน์ตา..ช้างมีนัยน์ตาเล็กมากเมื่อเทียบกับรูปร่างอันสูงใหญ่ แต่ก็สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ไกลและชัดเจน
ใบหู.. มีลักษณะเป็นแผ่นใหญ่คล้ายพัดโบกไปมาอยู่เสมอ เมื่อช้างกางใบหูออกจะได้ยินเสียงจากที่ไกล ๆ ได้ดีขึ้น ช้างที่มีอายุมากใบหูจะม้วนลงมา ขอบล่างมักเว้าแหว่งขอบใบหูที่เว้าแหว่งนี้อาจใช้คาดคะเนอายุของช้างได้คร่าว ๆ ถ้าเว้าแหว่งน้อยแสดงว่าอายุยังน้อย ถ้าเว้าแหว่งมากแสดงว่าอายุมาก
หาง..หางช้างมีลักษณะกลมยาวเรียวลงไปถึงเข่า ที่ปลายหางมีขนเส้นโตดำ ยาวประมาณ ๔-๖ นิ้ว เรียงกัน ๒ แถวตลอดความยาวของหางประมาณ ๖-๗ นิ้ว
เล็บ..ช้างมีนิ้วเท้าสั้นที่สุดจนเห็นอุ้งเท้า มีเล็บโผลให้เห็นเป็นบางเล็บ ช้างส่วนมากมี ๑๘ เล็บ คือ เท้าหน้าข้างละ ๕ เล็บ เท้าหลังข้างละ ๔ เล็บ ช้างบางตัวมี ๑๖ เล็บ ในขณะที่บางตัวมีถึง ๒๐ เล็บ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น